กิ่ง เหมือนแพร เอาชนะตัวเอง ใส่ “หน้ากากราศีธนู” ฮึดสู้ทุกความกลัว คว้าแชมป์ The Mask จักรราศี
การเดินทางของ The Mask จักรราศี มาถึงรอบสุดท้ายในวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สำหรับการแข่งขันของสองหน้ากากสุดท้าย ได้แก่ หน้ากากราศีมีน และ หน้ากากราศีธนู เพื่อค้นหาแชมป์หนึ่งเดียวของซีซั่นนี้ โดยตลอดระยะเวลาในการแข่งขันที่ผ่านมานั้น ทั้งสองหน้ากากนี้ได้รับการตัดสินด้วยคะแนนโหวตจากคนไทยทั้งประเทศแบบทิ้งห่างกันไม่มาก เรียกว่าสมศักดิ์ศรีอย่างเป็นที่สุด จนมาถึงการแข่งขันในรอบสุดท้าย และสำหรับหน้ากากผู้ชนะใน The Mask จักรราศีนี้ ได้แก่ หน้ากากราศีธนู ผู้ที่อยู่ภายใต้หน้ากากก็ตรงกับที่คนไทยทั้งประเทศและคณะกรรมการคาดการณ์ไว้ นั่นคือ นักร้องสาวตัวเล็กเสียงดี “กิ่ง เหมือนแพร พานะบุตร” กับการถ่ายถอดความรู้สึกแรกหลังจากถอดหน้ากากด้วยการบอกว่า “สะใจที่ตัวเองสามารถต่อสู้กับหลายสิ่งโดยเฉพาะตัวเองเพื่อมาบนเวทีแห่งนี้”
หลังจากหน้ากากราศีธนู หรือ กิ่ง เหมือนแพร ได้ถอดหน้ากากให้ทุกคนได้เห็นว่าเป็นใคร พร้อมการเปิดเผยความรู้สึก “หลายปีที่ผ่านมา หลายคนอาจลืมหนูไปแล้ว และหลายคนถามว่าเมื่อไรจะมีผลงาน ซึ่งตัวเองก็ยังไม่มีโอกาส จนรายการติดต่อไปรู้สึกดีใจมาก ตัดสินอยู่เหมือนกันเพราะตัวเองเป็นโรคกลัวที่แคบ แต่ก็คิดว่าจะต้องสู้กับตัวเองไปให้ได้ เลยตอบรับร่วมรายการ เพื่อสร้างความมั่นใจของตัวเองกลับมา พยายามต่อสู้จนมาถึงวันนี้ ยาที่สำคัญที่สุดคือ “กำลังใจจากทุกคน” ขอบคุณรายการที่มอบของขวัญชิ้นพิเศษให้ ขอบคุณที่ให้โอกาสและทำให้กลับมาภูมิใจในตัวเองอีกครั้ง”
รองแชมป์ หน้ากากราศีมีน ได้แก่ นักร้องนำวงดนตรีชื่อดัง “เอก สุดเขต จึงเจริญ” หรือ “เอก Season Five” โดยได้เผยความรู้สึกว่า “ตื่นเต้น โล่ง ไม่ว่าจะอะไรการได้มายืนในรอบนี้คือที่สุดแล้ว ขอบคุณทุกอย่างบนเวทีแห่งนี้” การที่เลือกเป็น หน้ากากราศีมีน คือ สัญลักษณ์ของราศีมีนเป็นปลาคู่ เปรียบเสมือนหยินกับหยาง คล้ายกับตัวเองที่มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี
สำหรับรอบสุดท้ายของทั้งสองหน้ากากนี้ ทั้งคู่ได้ทำหน้าที่สุดท้ายของการเป็นหน้ากากได้เป็นอย่างดี เริ่มต้นด้วย “หน้ากากราศีมีน” ถ่ายทอดเพลง หลับตา และ โลกที่ไม่มีเธอ ส่วน “หน้ากากราศีธนู” มากับ 3 บทเพลง ได้แก่ เธอ,เรา และ คู่ชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นการร้องเพลงที่จัดเต็มด้วยอินเนอร์แบบไม่มีใครยอมใคร เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันปิดซีซั่นของ The Mask จักรราศี ได้อย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ บนเวทีแห่งการพิสูจน์ความสามารถภายใต้หน้ากากได้อย่างดีเช่นเดิม