เวิร์คพอยท์ร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ชุมพร
เวิร์คพอยท์ร่วมสนับสนุนกิจกรรมดีๆ เพื่อโลกของเรา ซึ่งทางจังหวัดชุมพร ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนภายใต้โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม โดยมี นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. คณะผู้บริหารหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ชุมชนในพื้นที่ นักเรียน และกลุ่มเยาวชน กว่า 400 คน รวมทั้ง 2 ผู้ประกาศข่าวช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 ปอเปี๊ยะ กาลเวลา เสาเรือน และ ชิน ธนภัทร ติรางกูร เป็นตัวแทนเวิร์คพอยท์ ร่วมกันยกขบวนชวนปลูกป่า ณ พื้นที่ป่าชายเลนอ่าวทุ่งคา-สวี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร
ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวว่า กิจกรรมปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมของ กฟผ. ในวันนี้ ได้นำกลุ่มเยาวชนจากกิจกรรม “ยกขบวน ชวนปลูกป่า” ที่ร่วมสนุกสแกนต้นไม้ผ่านแอปพลิเคชัน ECOLIFE เดินทางด้วยรถไฟมาร่วมปลูกป่าชายเลนที่จังหวัดชุมพร ร่วมกับเยาวชนและชุมชนชาวชุมพร เพื่อสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์และเห็นความสำคัญของป่าให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปลูกป่าในใจเยาวชนให้เป็นผู้อนุรักษ์และดูแลป่าต่อไปในอนาคต การปลูกป่าในครั้งนี้ จะปลูกต้นโกงกางใบใหญ่ และโกงกางใบเล็ก จำนวน 4,000 ต้น บนพื้นที่ 7 ไร่ ในพื้นที่ป่าชายเลนอ่าวทุ่งคา-สวี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร เพื่อพลิกฟื้นบ่อเลี้ยงปลา ที่มีสภาพเป็นดินโคลนและเสื่อมโทรมให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ กลายเป็นปราการธรรมชาติสีเขียวป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลและเป็นแนวกำบังคลื่นชายฝั่งด้วย นอกจากนี้ ยังมีความสำคัญต่อการวางไข่และฟักตัวของสัตว์น้ำทะเล เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนให้เติบโต เป็นทั้งแหล่งอาหาร และสร้างอาชีพให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืน
โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมของ กฟผ. มีเป้าหมายในการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม 1 ล้านไร่ ภายในเวลา 10 ปีระหว่างปี 2565 –2574 และบำรุงรักษาต่อเนื่องอีก 9 ปี ครอบคลุมพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทย ผ่านการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและพันธมิตรในการปลูก บำรุงรักษาป่า ตรวจติดตามอัตราการรอดตาย และอัตราการเติบโตของกล้าไม้ร่วมกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการตรวจติดตาม เช่น ระบบดาวเทียมการใช้โดรน และการพัฒนา AI ติดตามการเติบโตของต้นไม้ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชน ป่าเศรษฐกิจ และป่าชายเลน สามารถชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ มากกว่า 1.2 ล้านตันต่อปี คาดว่าตลอดระยะเวลาโครงการฯ จะดูดซับกักเก็บคาร์บอนได้ทั้งสิ้นเกือบ 24 ล้านตัน CO2 เพื่อตอบสนองนโยบายมุ่งสู่ EGAT Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 หรือปี พ.ศ. 2593 พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนคนไทยหัวใจรักษ์โลก ปลูกต้นไม้ออนไลน์กับ กฟผ. ผ่าน Application “ECOLIFE” เพื่อหนุนนำประเทศไทยมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนไปด้วยกัน