แจ้งมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2550
26 December 2007
เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญให้แก่บริษัท
สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ลงทุนโดย
เฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนประเภทสถาบัน (Private Placement)
(แล้วแต่กรณี)
ทั้งนี้ ราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับสิทธิ คำนวณ
ได้จากจำนวนเงินที่จะได้รับจากการขายหลักทรัพย์ที่ให้สิทธิที่จะแปลง
สภาพ/เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ หักด้วย
ค่าใช้ จ่ ยที่เ กิ ดขึ้ น จากการออกหลั ก ทรัพ ย์ ที่ ออกนั้ น รวมกับ เงิ น ที่ จ
ได้รับจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญนั้น หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งสิ้นที่ต้อง
ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธินั้น
(ก) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0 x [(A x MP) + BX]
[MP (A + B)]
(ข) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x [MP(A + B)]
[(A x MP) + BX]
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ ใ ห ม่ ห ลั ง ก ร
เปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ เ ดิ ม ก่ อ น ก ร
เปลี่ยนแปลง
MP คือ ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท
A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ
วันก่อนวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อการจอง
ซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ที่มีสิทธิที่จะแปลงสภาพ/
เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้ หรือให้สิทธิในการจอง
ซื้อหุ้นสามัญ และ/หรือ วันแรกของการเสนอขาย
หลัก ทรั พ ย์ ที่ออกใหม่ ที่ มีสิ ท ธิที่ จ แปลงสภาพ/
เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อ
หุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอขาย
ต่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนประเภท
สถาบัน
B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธิ
ของหลั ก ทรั พ ย์ ใ ดๆ ที่ ใ ห้ สิ ท ธิ ที่ จ แปลงสภาพ/
เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อ
หุ้นสามัญตามที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/
หรือเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอ
ขายต่ อ ผู้ ล งทุ น โดยเฉพาะเจาะจงหรื อ ผู้ ล งทุ น
ประเภทสถาบัน
BX คือ จำ นวนเงิ น ที่ จ ได้ รั บ ทั้ ง สิ้ น หลั ง หั ก ค่ ใช้ จ่ ยที่
เกิดขึ้นจากการออกหลักทรัพย์ใดๆ ที่ให้สิทธิที่จะ
แปลงสภาพ/เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิ
ในการจองซื้ อ หุ้ น สามั ญ สำ หรั บ การเสนอขาย
ให้ แ ก่ ผู้ ถื อ หุ้ น เดิ ม และ/หรื อ เสนอขายต่ อ
ประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอขายต่อผู้ลงทุน
โดยเฉพาะเจาะจงหรื อผู้ ล งทุ นประเภทสถาบั น
รวมกับเงินที่จะได้รับจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ
11.4. เมื่อบริษัท จ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นของ
บริษัท การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับ
ทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่มีสิทธิรับหุ้นปันผล (วันแรกที่ตลาด
หลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย XD)
(ก) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0 x [A]
[A + B]
(ข) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x [A + B]
[A]
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ ใ ห ม่ ห ลั ง ก ร
เปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ เ ดิ ม ก่ อ น ก ร
เปลี่ยนแปลง
A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ
วันก่อนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการ
รับหุ้นปันผล
B คือ จำ นวนหุ้ น สามั ญ ที่ อ อกใหม่ ใ นรู ป แบบของหุ้ น
สามัญปันผล
11.5. เมื่อบริษัท สิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลโดยผลของกฎหมาย เนื่องมาจากการ
ดำเนินการตามขั้นตอนของการควบรวมบริษัทตามพระราชบัญญัติบริษัท
มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 แล้วเกิดเป็นบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวม
("บริษัทใหม่") บริษัทใหม่จะต้องเป็นผู้รับภาระผูกพันต่าง ๆ ตามข้อกำหนด
สิทธิและเงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้
สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันที่บริษัท ได้ทำการจด
ทะเบียนควบบริษัทกับนายทะเบียนกระทรวงพาณิชย์
(ก) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0
Swap Ratio
(ข) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 * Swap Ratio
โดยที่
Swap Ratio คือ อัตราส่วนการจัดสรรหุ้นบริษัทใหม่ที่ผู้ถือ
หุ้นของบริษัท จะได้รับต่อ 1 หุ้นเดิมของบริษัท
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ ใ ห ม่ ห ลั ง ก ร
เปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ เ ดิ ม ก่ อ น ก ร
เปลี่ยนแปลง
11.6. ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใด ๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิ และ
ผลประโยชน์อันพึงได้โดยที่เหตุการณ์ใดๆ นั้นไม่ได้กำหนดหรือไม่ได้มีลักษณะ
เดียวกับที่กำหนดอยู่ในข้อ 11.1. ถึงข้อ 11.5. ให้คณะกรรมการบริษัท เป็นผู้
พิจารณาเพื่อกำหนดการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรืออัตราการใช้
สิทธิใหม่โดยไม่ทำให้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิด้อยไปกว่าเดิม ทั้งนี้ ให้
ถือว่าผลการพิจารณานั้นเป็นที่สุด และจะแจ้งให้สำนักงาน ก.ล.ต. ทราบ
ภายใน 15 วันนับแต่วันที่มีเหตุให้ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิ
ดังกล่าว
11.7. การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ
11.1. ถึงข้อ 11.6. เป็นอิสระต่อกัน สำหรับในกรณีที่เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น
พร้อมกันให้คำนวณการเปลี่ยนแปลงเรียงลำดับดังนี้ คือ ข้อ 11.1. ข้อ 11.4.
ข้อ 11.2. ข้อ 11.3. ข้อ 11.5. และข้อ 11.6. โดยในแต่ละลำดับครั้งที่คำนวณ
การเปลี่ยนแปลง ให้คงสภาพของราคาการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง
และอัตราการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง
11.8. การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ
11.2. ถึงข้อ 11.6. จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่สูงขึ้น
และ/หรืออัตราการใช้สิทธิลดลง เว้นแต่กรณีข้อ 11.1. และ 11.5. ในกรณีที่
การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิดังกล่าวมีผลทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่มี
ราคาซึ่งต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท ก็ให้ใช้มูลค่าที่ตราไว้
ของหุ้นสามัญของบริษัท เป็นราคาการใช้สิทธิใหม่ โดยไม่มีการชดเชย
ค่าเสียหายใด ๆ สำหรับส่วนต่างของราคาการใช้สิทธิใหม่ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าที่
ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท
11.9. หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ
11 นี้ บริษัท จะแจ้งสำนักงาน ก.ล.ต. และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ทราบถึง
ราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิใหม่ภายใน 15 วันนับจากวันที่มีผล
บังคับใช้ของการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ โดยจะมี
รายละเอียดของเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดวิธีการคำนวณ
ราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิใหม่ และวันที่มีผลบังคับใช้ของการ
เปลี่ยนแปลงดังกล่าว