แจ้งมติคณะกรรมการเกี่ยวกับการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ

21 November 2007
เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญให้แก่บริษัท สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ลงทุนโดย เฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนประเภทสถาบัน (Private Placement) ตาม หลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือประกาศของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือประกาศของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่เกี่ยวข้อง (แล้วแต่กรณี) ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท ให้ใช้และมีความหมายเช่นเดียวกับ รายละเอียดในข้อ 11.2. "วันที่ใช้ในการคำนวณ" หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับ สิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ใด ๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพ/ เปลี่ ย นเป็ น หุ้ น สามั ญ สำ หรั บ กรณี ที่ เ ป็ น การเสนอขายหลั ก ทรั พ ย์ ดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) หรือ วันแรกของการเสนอ ขายหลั ก ทรั พ ย์ ที่ ออกใหม่ ใด ๆ ที่ ให้ สิ ท ธิแ ปลงสภาพ/เปลี่ ย นเป็ น หุ้ น สามัญได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปสำหรับ กรณี ที่ เ ป็ น การเสนอขายหลั ก ทรั พ ย์ ดั ง กล่ วให้ แ ก่ ป ระชาชนทั่ ว ไป (Public Offering) หรือ วันแรกที่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุน ประเภทสถาบั น ชำ ระราคาหลั ก ทรั พ ย์ ที่ มี สิ ท ธิ ที่ จ แปลงสภาพ/ เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญให้แก่บริษัท สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ลงทุนโดย เฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนประเภทสถาบัน (Private Placement) (แล้วแต่กรณี) ทั้งนี้ ราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับสิทธิ คำนวณ ได้จากจำนวนเงินที่จะได้รับจากการขายหลักทรัพย์ที่ให้สิทธิที่จะแปลง สภาพ/เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ หักด้วย ค่าใช้ จ่ ยที่เ กิ ดขึ้ น จากการออกหลั ก ทรัพ ย์ ที่ ออกนั้ น รวมกับ เงิ น ที่ จ ได้รับจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญนั้น หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งสิ้นที่ต้อง ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธินั้น (ก) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้ Price 1 = Price 0 x [(A x MP) + BX] [MP (A + B)] (ข) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้ Ratio 1 = Ratio 0 x [MP(A + B)] [(A x MP) + BX] โดยที่ Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง Ratio 1 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ ใ ห ม่ ห ลั ง ก ร เปลี่ยนแปลง Ratio 0 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ เ ดิ ม ก่ อ น ก ร เปลี่ยนแปลง MP คือ ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อการจอง ซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ที่มีสิทธิที่จะแปลงสภาพ/ เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้ หรือให้สิทธิในการจอง ซื้อหุ้นสามัญ และ/หรือ วันแรกของการเสนอขาย หลัก ทรั พ ย์ ที่ออกใหม่ ที่ มีสิ ท ธิที่ จ แปลงสภาพ/ เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อ หุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอขาย ต่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนประเภท สถาบัน B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธิ ของหลั ก ทรั พ ย์ ใ ดๆ ที่ ใ ห้ สิ ท ธิ ที่ จ แปลงสภาพ/ เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อ หุ้นสามัญตามที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/ หรือเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอ ขายต่ อ ผู้ ล งทุ น โดยเฉพาะเจาะจงหรื อ ผู้ ล งทุ น ประเภทสถาบัน BX คือ จำ นวนเงิ น ที่ จ ได้ รั บ ทั้ ง สิ้ น หลั ง หั ก ค่ ใช้ จ่ ยที่ เกิดขึ้นจากการออกหลักทรัพย์ใดๆ ที่ให้สิทธิที่จะ แปลงสภาพ/เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิ ในการจองซื้ อ หุ้ น สามั ญ สำ หรั บ การเสนอขาย ให้ แ ก่ ผู้ ถื อ หุ้ น เดิ ม และ/หรื อ เสนอขายต่ อ ประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอขายต่อผู้ลงทุน โดยเฉพาะเจาะจงหรื อผู้ ล งทุ นประเภทสถาบั น รวมกับเงินที่จะได้รับจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ 11.4. เมื่อบริษัท จ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นของ บริษัท การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับ ทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่มีสิทธิรับหุ้นปันผล (วันแรกที่ตลาด หลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย XD) (ก) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้ Price 1 = Price 0 x [A] [A + B] (ข) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้ Ratio 1 = Ratio 0 x [A + B] [A] โดยที่ Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง Ratio 1 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ ใ ห ม่ ห ลั ง ก ร เปลี่ยนแปลง Ratio 0 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ เ ดิ ม ก่ อ น ก ร เปลี่ยนแปลง A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการ รับหุ้นปันผล B คือ จำ นวนหุ้ น สามั ญ ที่ อ อกใหม่ ใ นรู ป แบบของหุ้ น สามัญปันผล 11.5. เมื่อบริษัท สิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลโดยผลของกฎหมาย เนื่องมาจากการ ดำเนินการตามขั้นตอนของการควบรวมบริษัทตามพระราชบัญญัติบริษัท มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 แล้วเกิดเป็นบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวม ("บริษัทใหม่") บริษัทใหม่จะต้องเป็นผู้รับภาระผูกพันต่าง ๆ ตามข้อกำหนด สิทธิและเงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้ สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันที่บริษัท ได้ทำการจด ทะเบียนควบบริษัทกับนายทะเบียนกระทรวงพาณิชย์ (ก) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้ Price 1 = Price 0 Swap Ratio (ข) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้ Ratio 1 = Ratio 0 * Swap Ratio โดยที่ Swap Ratio คือ อัตราส่วนการจัดสรรหุ้นบริษัทใหม่ที่ผู้ถือ หุ้นของบริษัท จะได้รับต่อ 1 หุ้นเดิมของบริษัท Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง Ratio 1 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ ใ ห ม่ ห ลั ง ก ร เปลี่ยนแปลง Ratio 0 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ เ ดิ ม ก่ อ น ก ร เปลี่ยนแปลง 11.6. ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใด ๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิ และ ผลประโยชน์อันพึงได้โดยที่เหตุการณ์ใดๆ นั้นไม่ได้กำหนดหรือไม่ได้มีลักษณะ เดียวกับที่กำหนดอยู่ในข้อ 11.1. ถึงข้อ 11.5. ให้คณะกรรมการบริษัท เป็นผู้ พิจารณาเพื่อกำหนดการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรืออัตราการใช้ สิทธิใหม่โดยไม่ทำให้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิด้อยไปกว่าเดิม ทั้งนี้ ให้ ถือว่าผลการพิจารณานั้นเป็นที่สุด และจะแจ้งให้สำนักงาน ก.ล.ต. ทราบ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่มีเหตุให้ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิ ดังกล่าว 11.7. การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 11.1. ถึงข้อ 11.6. เป็นอิสระต่อกัน สำหรับในกรณีที่เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น พร้อมกันให้คำนวณการเปลี่ยนแปลงเรียงลำดับดังนี้ คือ ข้อ 11.1. ข้อ 11.4. ข้อ 11.2. ข้อ 11.3. ข้อ 11.5. และข้อ 11.6. โดยในแต่ละลำดับครั้งที่คำนวณ การเปลี่ยนแปลง ให้คงสภาพของราคาการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง และอัตราการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง 11.8. การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 11.2. ถึงข้อ 11.6. จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่สูงขึ้น และ/หรืออัตราการใช้สิทธิลดลง เว้นแต่กรณีข้อ 11.1. และ 11.5. ในกรณีที่ การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิดังกล่าวมีผลทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่มี ราคาซึ่งต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท ก็ให้ใช้มูลค่าที่ตราไว้ ของหุ้นสามัญของบริษัท เป็นราคาการใช้สิทธิใหม่ โดยไม่มีการชดเชย ค่าเสียหายใด ๆ สำหรับส่วนต่างของราคาการใช้สิทธิใหม่ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าที่ ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท 11.9. หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 11 นี้ บริษัท จะแจ้งสำนักงาน ก.ล.ต. และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ทราบถึง ราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิใหม่ภายใน 15 วันนับจากวันที่มีผล บังคับใช้ของการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ โดยจะมี รายละเอียดของเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดวิธีการคำนวณ ราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิใหม่ และวันที่มีผลบังคับใช้ของการ เปลี่ยนแปลงดังกล่าว