แจ้งมติคณะกรรมการเกี่ยวกับการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ
21 November 2007
ความสำคัญต่อ
ความสำเร็จและผล
การดำเนินงานของ
บริษัท
- เป็นผู้บริหารในการ
5.นางเบญจมาศ ผู้อำนวยการ 17 ปี 1
จันปุ่ม ฝ่ายบัญชีและ เดือน ควบคุมหน่วยงาน
การเงิน บัญชีและการเงิน
ของกลุ่มบริษัท
เวิร์คพอยท์
- เป็นผู้ร่วมในการ
กำหนดวิสัยทัศน์
และนโยบายในการ
ดำเนินธุรกิจของ
กลุ่มบริษัทเวิร์ค
พอยท์
- เป็นบุคลากรซึ่งมี
ความสำคัญต่อ
ความสำเร็จและผล
การดำเนินงานของ
บริษัท
รายชื่อ ตำแหน่ง อายุงาน เหตุผล ความจำเป็น
ณ 31 และประโยชน์ที่
ตุลาคม บริษัทฯจะได้รับ
2550
- เป็นผู้บริหารใน
6.นางวิชนี ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ 13 ปี 7
ฝ่ายขาย เดือน การควบคุม
หน่วยงานขาย
โฆษณาให้กับ
Content ต่างๆ
ของกลุ่มบริษัท
เวิร์คพอยท์
- เป็นผู้ร่วมในการ
กำหนด
วิสัยทัศน์และ
นโยบายในการ
ดำเนินธุรกิจของ
กลุ่มบริษัทเวิร์ค
พอยท์
- เป็นบุคลากรซึ่ง
มีความสำคัญ
ต่อความสำเร็จ
และผลการ
ดำเนินงานของ
บริษัท
- เป็นผู้บริหาร
7.นายโสฬส ศรีรัตน์ ผู้อำนวยการ 17 ปี 11
ฝ่ายศิลปกรรม เดือน สูงสุดในการ
สร้างสรรค์และ
ควบคุมงาน
ศิลปกรรมใน
Content ของ
กลุ่มบริษัทเวิร์ค
พอยท์ เช่น
รายการโทรทัศน์
ภาพยนตร์
ละครเวที
คอนเสิร์ต ฯลฯ
- เป็นผู้ร่วมใน
การกำหนด
วิสัยทัศน์และ
นโยบายในการ
ดำเนินธุรกิจของ
กลุ่มบริษัทเวิร์ค
พอยท์
- เป็นบุคลากรซึ่ง
มีความสำคัญ
ต่อความสำเร็จ
และผลการ
ดำเนินงานของ
บริษัท
- เป็นผู้บริหารใน
8.นายรุ่งธรรม พุ่มสี ผู้อำนวยการ 12 ปี 8
นิล ฝ่ายผลิต 1 เดือน การสร้างสรรค์
และควบคุมการ
ผลิตรายการ
โทรทัศน์ต่างๆ
ของกลุ่มบริษัท
เวิร์คพอยท์ เช่น
รายการแฟน
พันธุ์แท้ รายการ
ทศกัณฐ์เด็ก
รายการทศกัณฐ์
ยกทัพ รายการ
อัจฉริยะข้ามคืน
ฯลฯ
- เป็นผู้ร่วมในการ
กำหนด
วิสัยทัศน์และ
นโยบายในการ
ดำเนินธุรกิจของ
กลุ่มบริษัทเวิร์ค
พอยท์
- เป็นบุคลากรซึ่ง
มีความสำคัญ
ต่อความสำเร็จ
และผลการ
ดำเนินงานของ
บริษัท
รายชื่อ ตำแหน่ง อายุงาน เหตุผล ความ
ณ 31 จำเป็น และ
ตุลาคม ประโยชน์ที่บริษัทฯ
2550 จะได้รับ
- เป็นผู้บริหาร
9.นายชยันต์ จัน ผู้อำนวยการ 6 ปี 9
ทวงศาทร ฝ่ายผลิต 2 เดือน ในการ
สร้างสรรค์
และควบคุม
การผลิต
รายการ
โทรทัศน์ต่างๆ
ของกลุ่ม
บริษัทเวิร์ค
พอยท์ เช่น
รายการชิงร้อย
ชิงล้าน
รายการคุณ
พระช่วย
ละครซิทคอม"
รักต้องซ่อม"
ฯลฯ
- เป็นผู้ร่วมใน
การกำหนด
วิสัยทัศน์และ
นโยบายใน
การดำเนิน
ธุรกิจของกลุ่ม
บริษัทเวิร์ค
พอยท์
- เป็นบุคลากร
ซึ่งมี
ความสำคัญ
ต่อ
ความสำเร็จ
ผลประโยชน์ที่พนักงานดังกล่าวข้างต้นจะได้รับจากการเสนอขายใบสำคัญ
แสดงสิทธิในครั้งนี้ไม่มีเนื่องจากราคาการใช้สิทธิเป็นราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ
ราคาตลาดของหุ้นของบริษัทที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทยในระยะเวลา 10 วันทำการ ก่อนวันที่ออกและเสนอขาย ESOP
warrants ในครั้งนี้
ประวัติการประชุมของกรรมการที่ได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิเกินกว่า
ร้อยละ 5 ของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกในครั้งนี้ ในระยะเวลา 1
มกราคม 2549 ถึง 31 ตุลาคม 2550 ซึ่งมีการประชุมกรรมการทั้งหมด 10 ครั้ง
มีรายละเอียดดังนี้
รายชื่อ จำนวนครั้งที่มา จำนวนครั้งที่ขาด
ประชุม ประชุม
1.นายพาณิชย์ สดสี 9 1
2.นายนุวัทฐ จั่นบำรุง 9 1
3.นายครรชิต ควะชาติ 10 -
4.นางสาวมาลี ปานพชร 9 1
5.นางเบญจมาศ จันปุ่ม 10 -
คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนจึงมีความเห็นชอบต่อการจัดสรรใบสำคัญ
แสดงสิทธิให้แก่ผู้บริหารทั้ง 9 ท่านที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เนื่องจากมีความจำเป็น
และจะเป็นผลดีแก่บริษัท โดยบริษัทสามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อจูงใจให้
ผู้บริหารของบริษัทปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นเพื่อประโยชน์
สูงสุดของบริษัท ซึ่งจะส่งผลให้ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้นด้วย
คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนจะเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการบริษัท
และที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
ความเห็นของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัทมีความเห็นให้อนุมัติการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่
กรรมการและพนักงานที่ได้รับการจัดสรรเกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนใบสำคัญ
แสดงสิทธิทั้งหมดที่เสนอขายในครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ
คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนทุกประการ
ลักษณะและเงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิ
5.
5.1. ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายต่อกรรมการและ/หรือพนักงานจะอยู่
ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ.
36/2544 เรื่อง การเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ต่อกรรมการหรือพนักงาน
ฉบับลงวันที่ 19 ตุลาคม 2544
5.2. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นผู้รับผิดชอบค่าภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร
หรือตามประมวลกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตาม
ใบสำคัญแสดงสิทธิ
5.3. ทั้งนี้เมื่อพ้นกำหนดวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย หากมีใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้
ใช้สิทธิให้ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวหมดสภาพลง และไม่สามารถ
นำมาใช้สิทธิได้อีกต่อไปไม่ว่ากรณีใด ๆ
สิทธิของผู้ถือหุ้นในการคัดค้านการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ
6.
กรรมการและ/หรือพนักงานตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ.
36/2544 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2544
6.1. ตามข้อ 14 แห่งประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 36/2544 ลงวันที่ 19
ตุลาคม 2544 การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิต่อกรรมการและ/หรือ
พนักงานต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสาม
ในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงและ
ต้องไม่มีผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นรวมกันเกินกว่าร้อยละสิบของจำนวนเสียงทั้งหมดของ
ผู้ถือหุ้นที่มาประชุมคัดค้านการออกและเสนอขายหุ้นสามัญตามโครงการ
ESOP
6.2. ในกรณีที่จะเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิต่อกรรมการและ/หรือพนักงานรายใด
เกินกว่าร้อยละห้าของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่เสนอขายในครั้งนี้
ตามข้อ 15(2) แห่งประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ดังกล่าวข้างต้น ที่ประชุมผู้
ถือหุ้นของบริษัทต้องมีมติอนุมัติการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว
ให้แก่กรรมการและ/หรือพนักงานเป็นรายบุคคล โดยมีมติอนุมัติเป็นรายบุคคล
และจะต้องได้รับคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของ
ผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงและต้องไม่มีผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นรวมกัน
เกินกว่าร้อยละห้าของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมคัดค้านมติ
ดังกล่าว
ความช่วยเหลือทางการเงินจากบริษัทในการจัดหาแหล่งเงินทุนแก่กรรมการ
7.
และพนักงาน
บริษัทไม่มีนโยบายในการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน อย่างไรก็ตาม บริษัท
อาจจะอำนวยความสะดวกในการติดต่อสถาบันการเงินเพื่อวัตถุประสงค์การใช้สิทธิ
แปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จัดสรรให้แก่กรรมการและ/หรือพนักงานของ
บริษัท
การดำเนินการของบริษัทหากมีหลักทรัพย์เหลือจากการจัดสรร
8.
ในกรณีที่มีใบสำคัญแสดงสิทธิเหลือจากการจัดสรรให้กรรมการและพนักงาน
ให้เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการของบริษัทเป็นผู้มีอำนาจพิจารณากำหนดการ
จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่เหลือให้กับพนักงานรายอื่นตามที่เห็นสมควร ภายใน
ระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต.
ทั้งนี้ หากเป็นการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่กรรมการหรือการจัดสรร
ให้แก่พนักงานรายใดเป็นผลให้ได้รับการจัดสรรเกินร้อยละ 5 ของจำนวนใบสำคัญ
แสดงสิทธิทั้งหมดที่ออกในครั้งนี้ บริษัทให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณา
อนุมัติก่อน
ผลกระทบที่มีต่อผู้ถือหุ้น
9.
9.1. ผลกระทบต่อราคาของหุ้น (Price Dilution)
เนื่องจากราคาใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ คือ ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ
ราคาหุ้นของบริษัท ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วง
ระยะเวลา 10 วันทำการก่อนวันที่ออกและเสนอขาย ESOP warrants ซึ่งราคา
ดังกล่าวใกล้เคียงกับราคาตลาด ดังนั้น การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดง
สิทธิในครั้งนี้จึงไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้นของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้น เมื่อมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นของ
กรรมการและพนักงานของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย จะขึ้นอยู่กับราคาตลาด
ของหุ้นของบริษัท ณ วันที่หุ้นเพิ่มทุนที่เกิดจากการใช้สิทธิดังกล่าวเข้าทำการซื้อ
ขายในตลาดหลักทรัพย์
9.2. ผลกระทบต่อส่วนแบ่งกำไรหรือสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้นเดิม (Control
Dilution)
การใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวน 10, 800,000 หน่วย จะทำให้ส่วน
แบ่งกำไร หรือสิทธิในการออกเสียงของผู้ถือหุ้นเดิมจะลดลงในอัตราร้อยละ
5.12 ของส่วนแบ่งกำไรหรือสิทธิในการออกเสียงเดิม หรือคิดเป็นร้อยละ 5.12
ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ในปัจจุบัน
เงื่อนไขอื่น ๆ
10.
ให้คณะกรรมการบริษัทดำเนินการให้มีการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และ
ขออนุญาตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้มีอำนาจในการกำหนด และ/หรือ
แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการออกและ
เสนอขายและการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องภายใต้ข้อกฎหมายและประกาศ
ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยจะกำหนดวันออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้ง
นี้ ภายหลังจากที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์
เงื่อนไขการปรับสิทธิ
11.
การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ (Exercise Price) และอัตราการ
ใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (Exercise Ratio) ของใบสำคัญแสดงสิทธิมีรายละเอียด
ดังนี้
บริษัทจะดำเนินการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตลอดอายุของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษา
ผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ให้ด้อยไปกว่าเดิม
11.1. เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท อันเนื่องมาจาก
การรวม หรือการแบ่งแยกหุ้นสามัญที่ได้ออกแล้วของบริษัท ซึ่งการเปลี่ยน
ราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ จะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันที่ ได้มีการจด
ทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท ต่อกระทรวง
พาณิชย์
(ก) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0 x [Par 1]
[Par 0]
(ข) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x [Par 0]
[Par 1]
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ ใ ห ม่ ห ลั ง ก ร
เปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Par 1 คือ มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญหลังการเปลี่ยนแปลง
Par 0 คือ มู ล ค่ ที่ ต ร ไ ว้ ข อ ง หุ้ น ส มั ญ ก่ อ น ก ร
เปลี่ยนแปลง
11.2. เมื่อบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมและ/หรือบุคคลใดๆ
โดยราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่ำกว่า "ราคาตลาดของหุ้น
สามัญของบริษัท" หรือ ในกรณีที่ไม่มีราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท
คณะกรรมการบริษัทจะทำการกำหนดราคาที่ยุติธรรมเพื่อใช้ในการคำนวณ
การปรับสิทธิ
การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับ
ทั น ที ตั้ ง แต่ วั น แรกที่ ผู้ ซื้ อหุ้ น สามั ญ จะไม่ ไ ด้ รั บ สิ ท ธิใ นการจองซื้ อ หุ้ น
สามัญ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่
เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) หรือ วันแรกของ
การเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปสำหรับกรณีที่เป็นการเสนอ
ขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering) หรือ วันแรกที่ผู้
ลงทุ น โดยเฉพาะเจาะจงหรื อ ผู้ล งทุ น ประเภทสถาบั น ชำ ระราคาหุ้ น
สามัญแก่บริษัท สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่
ให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนประเภทสถาบัน (Private
Placement) ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์ หรือ ประกาศของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์หรือประกาศของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่เกี่ยวข้อง (แล้วแต่
กรณี)
"ราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่" คำนวณได้จากจำนวน
เงินทั้งสิ้นที่บริษัทจะได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่หักด้วย
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจาก การออกหุ้นสามัญที่ออกใหม่นั้น หารด้วยจำนวน
หุ้นสามัญที่ออกใหม่ทั้งสิ้น
อนึ่ง ในกรณีที่เมื่อมีการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่พร้อมกันมากกว่า 1
ราคาการเสนอขาย ในเงื่อนไขที่จะต้องจองซื้อด้วยกัน ให้นำราคาและ
จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ทั้งหมดมาคำนวณราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้น
สามัญที่ออกใหม่ แต่ในกรณีที่การเสนอขายพร้อมกันดังกล่าวไม่อยู่
ภายในเงื่อนไขที่จะต้องจองซื้อด้วยกันให้นำจำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่
และราคาเสนอขายที่ต่ำกว่า "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท"
มาคำนวณการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
"ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท" ได้กำหนดไว้เท่ากับราคาเฉลี่ย
ถ่ ว งนํ้ หนั ก ของหุ้ น สามั ญ ในตลาด-หลั ก ทรั พ ย์ ฯ ที่ มี ก รซื้ อ ขายบน
กระดานหลั ก 10 วั น ทำ การซื้ อ ขายล่ สุ ด ก่ อ นวั น ที่ ใ ช้ ในการคำ นวณ
"ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก" เท่ากับมูลค่าการซื้อขายหุ้นทั้งหมดของ
บริษัท ในแต่ละวัน หารด้วยจำนวนหุ้นของบริษัท ที่มีการซื้อขายทั้งหมด
ในแต่ละวัน
"วันที่ใช้ในการคำนวณ" หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับ
สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขาย
ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้น
เครื่องหมาย XR) หรือ วันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่แก่
ประชาชนทั่วไปสำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่แก่
ประชาชนทั่ ว ไป (Public Offering) หรื อ วั น แรกที่ ผู้ ล งทุ น โดย
เฉพาะเจาะจงหรื อ ผู้ ล งทุ น ประเภทสถาบั น ชำ ระราคาหุ้ น สามั ญ แก่
บริษัท สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ลงทุน
โดยเฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนประเภทสถาบัน (Private Placement)
(แล้วแต่กรณี)
(ก) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0 x [(A x MP) + BX]
[MP (A + B)]
(ข) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x [MP(A + B)]
[(A x MP) + BX]
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ ใ ห ม่ ห ลั ง ก ร
เปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อั ต ร ก ร ใ ช้ สิ ท ธิ เ ดิ ม ก่ อ น ก ร
เปลี่ยนแปลง
MP คือ ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท
A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ
วันก่อนวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อการจอง
ซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ และ/หรือ วันแรกของการ
เสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่แก่ประชาชนทั่วไป
แ ล / ห รื อ เ ส น อ ข ย ใ ห้ แ ก่ ผู้ ล ง ทุ น โ ด ย
เฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนสถาบัน
B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่จากการเสนอขายแก่
ผู้ ถื อ หุ้ น เดิ ม และ/หรื อ เสนอขายต่ อ ประชาชน
ทั่ ว ไป และ/หรื อ เสนอขายให้ แ ก่ ผู้ ล งทุ น โดย
เฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนประเภทสถาบัน
BX คือ จำนวนเงิน ที่จะได้รับ ทั้งสิ้ นหลัง หัก ค่าใช้จ่ายที่
เกิ ดขึ้นจากการออกหุ้ นสามั ญที่ ออกใหม่ นั้ น ทั้ ง
การเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอ
ขายต่อประชาชนทั่วไป และ/หรือเสนอขายให้แก่
ผู้ ล งทุ น โดยเฉพาะเจาะจงหรื อผู้ ล งทุ น ประเภท
สถาบัน
11.3. เมื่อบริษัท เสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ใดๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ
บุคคลใด ๆ โดยที่หลักทรัพย์นั้นมีสิทธิที่จะแปลงสภาพ/เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ
ได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ (เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือ ใบสำคัญ
แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ) โดยที่ราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่
เพื่อรองรับการใช้ สิทธิดังกล่าวต่ำกว่า "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของ
บริษัท" หรือในกรณีที่ไม่มีราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท คณะกรรมการ
บริษัท จะทำการกำหนดราคาที่ยุติธรรมเพื่อใช้ในการคำนวณการปรับสิทธิ
การเปลี่ยนราคาการใช้สิทธิ และอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันที
ตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์
ออกใหม่ใด ๆ ข้างต้น (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย XR)
สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) หรือ
วันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ฯ ที่ออกใหม่ใด ๆ ที่ให้สิทธิแปลง
สภาพ/เปลี่ ย นเป็ น หุ้ น สามั ญ ได้ ห รื อ ให้ สิ ท ธิ ใ นการจองซื้ อ หุ้ น สามั ญ
สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชน
ทั่วไป (Public Offering) หรือวันแรกที่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงหรือผู้
ลงทุนประเภทสถาบัน ชำระราคาหลักทรัพย์ที่มีสิทธิที่จะแปลงสภาพ/
(ยังมีต่อ)